สารกรองน้ำหลัก ๆ ประกอบด้วย ไส้กรองตะกอน, ถ่านกัมมันต์ (Activated Carbon), ไส้กรองเซรามิก, เรซินแลกเปลี่ยนไอออน (Ion Exchange Resin), เมมเบรนรีเวิร์สออสโมซิส (RO Membrane) รวมถึงวัสดุพิเศษอื่น ๆ เช่น ซีโอไลต์ และ อะลูมิเนียมออกไซด์ (Alumina) ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติในการกำจัดสารปนเปื้อนต่างกัน เช่น ตะกอน คลอรีน โลหะหนัก หรือความกระด้างของน้ำ การเลือกใช้จึงขึ้นอยู่กับคุณภาพน้ำต้นทางและชนิดของสารปนเปื้อนที่ต้องการกำจัด นอกจากนี้ยังมีการดูแลรักษา เช่น การล้างย้อน (Backwash) หรือการเปลี่ยนไส้กรองตามอายุการใช้งาน เพื่อให้การกรองน้ำมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดเวลา
ไส้กรองตะกอนมักทำจากโพลีโพรพิลีน (PP) แบบ Melt-blown ซึ่งมีโครงสร้างพรุน สามารถดักจับตะกอน ขี้ดิน หรือของแข็งแขวนลอยในน้ำขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทนทานต่อการกัดกร่อนทางเคมีและมีอายุการใช้งานค่อนข้างยาวนาน แต่ไม่สามารถกำจัดสารละลายหรือสิ่งปนเปื้อนละลายในน้ำได้
ถ่านกัมมันต์ทั้งแบบเม็ด (Granular Activated Carbon: GAC) และแบบบล็อก (Carbon Block) มีโครงสร้างผิวหน้าระดับนาโนที่ให้พื้นที่ผิวสูง จึงสามารถดูดซับคลอรีน กลิ่น สี และสารอินทรีย์จำพวก VOCs ได้ดี เหมาะสำหรับปรับรสชาติและกลิ่นของน้ำให้ดีขึ้น
เซรามิกมีรูพรุนขนาดเล็กมากจนสามารถกรองเชื้อแบคทีเรียและตะกอนขนาดเล็กได้ มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียตามธรรมชาติ จึงนิยมใช้ในงานที่ต้องการน้ำคุณภาพสูง เช่น ห้องปฏิบัติการหรือสถานพยาบาล แต่ติดตั้งและบำรุงรักษาค่อนข้างซับซ้อนกว่า
เรซินชนิดนี้ออกแบบมาเพื่อแลกเปลี่ยนไอออนในน้ำ เช่น แคลเซียม (Ca²⁺) และแมกนีเซียม (Mg²⁺) แลกเป็นโซเดียม (Na⁺) เพื่อลดความกระด้างของน้ำ เหมาะสำหรับระบบทำน้ำอ่อนหรือกำจัดโลหะหนักบางชนิด ต้องมีการล้างหรือรีเจนเนอเรตเรซินเป็นระยะ
เมมเบรน RO เป็นแผ่นฟิล์มกึ่งซึมผ่านที่ใช้แรงดันสูงดันให้น้ำผ่านรูพรุนขนาดนาโน ทำให้สามารถกำจัดสารละลาย โลหะหนัก และเกลือแร่ได้เกือบทั้งหมด แต่จะสร้างน้ำเสียจากกระบวนการรีเจกต์ ต้องคำนึงถึงต้นทุนการติดตั้งและการรักษา
ซีโอไลต์เป็นแร่ธรรมชาติที่มีโครงสร้างพรุน สามารถแลกเปลี่ยนไอออนและดูดซับสารปนเปื้อน เช่น แอมโมเนียมและโลหะหนัก ใช้ในระบบกร softenning บางระบบหรืองานบำบัดน้ำเฉพาะด้าน
อะลูมิเนียมออกไซด์ (γ-Al₂O₃) นิยมใช้สำหรับกำจัดฟลูออไรด์และโลหะหนักบางชนิด ด้วยกระบวนการดูดซับและแลกเปลี่ยนไอออน แต่ต้องควบคุม pH ของน้ำต้นทางเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
เลือกตามคุณภาพน้ำต้นทาง
หากมีตะกอนมาก ควรใช้ไส้กรองตะกอนก่อน
หากมีกลิ่น คลอรีน หรือสารอินทรีย์ ใช้ Activated Carbon
เลือกตามสารปนเปื้อนเป้าหมาย
ความกระด้าง: Ion Exchange Resin
สารละลายและโลหะหนัก: RO Membrane หรือ Alumina
การบำรุงรักษา
ไส้กรอง PP: ล้างย้อนหรือเปลี่ยนใหม่เมื่ออุดตัน
Activated Carbon: เปลี่ยนไส้กรองตามอายุการใช้งาน (6–12 เดือน)
Ion Exchange: รีเจนเนอเรตเรซินด้วยเกลือเม็ดเป็นระยะ (1–3 เดือน)
RO Membrane: บำรุงรักษาด้วยการล้าง Anti-Scalant และเปลี่ยนเมื่อประสิทธิภาพลดลง
การผสมผสานระบบ
ระบบกรองน้ำที่ดีมักประกอบด้วยการกรองหลายขั้นตอน (Multimedia) เช่น ตะกอน → ถ่านกัมมันต์ → RO → UV เพื่อครอบคลุมการกำจัดสารปนเปื้อนทุกรูปแบบ
โดยสรุป การเลือกสารกรองน้ำต้องพิจารณาสารปนเปื้อนที่ต้องการกำจัด คุณภาพน้ำต้นทาง ต้นทุนการติดตั้งและการดูแลรักษา รวมถึงอายุการใช้งานของไส้กรองแต่ละประเภท เพื่อให้ได้ระบบกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุดครับ